เอารถไปแต่ง ใส่สปอยเลอร์ ฯลฯ ประกันยังคุ้มครองไหม

คำถามยอดฮิตสำหรับคนชอบแต่งรถ จับรถคู่ใจของเราแต่งหล่อและเพิ่มสมรรถภาพให้รถ ทั้งใส่สปอยเลอร์ ใส่สเกิร์ต เปลี่ยนแมกซ์รถ เสริมเคฟลาร์ ใส่โรบาร์ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เมื่อแต่งแล้วก็เกิดสงสัย “ประกันรถยนต์คุ้มครองรถแต่งไหม” วันนี้แฟรงค์เลยหาคำตอบมาให้เพื่อนๆ ทุกคนแล้วครับ

ประกันรถยนต์ คุ้มครองรถแต่งไหม?

คำตอบก็คือ คุ้มครองครับ แต่!!! ไม่ใช่ทั้งหมดนะ เพราะการแต่งรถก็ถือว่าเป็นการดัดแปลงสภาพรถ ดังนั้น จึงต้องมีเรื่องของกฎหมายและข้อตกลงของบริษัทประกันเข้ามาเกี่ยวข้อง สำหรับคนที่อยากแต่งรถแฟรงค์ได้สรุปข้อกำหนดมาแล้ว เป็น 1 ห้าม 3 ต้อง ดังนี้ครับ 

ห้าม แต่งรถให้ “ผิดกฎหมาย”

แน่นอนว่าอะไรที่ผิดกฎหมายย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอยู่แล้ว โดยถ้าเราแต่งรถเพื่อความสวยงาม เสริมสมรรถภาพในการใช้งานนิดหน่อย เช่น ติดสติ๊กเกอร์ เสริมสปอยเลอร์ ใส่ล้อแม็ก ก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ ประกันคุ้มครองแน่นอน แต่ถ้าแต่งผิดกฎหมายตามนี้ ไม่คุ้มครองแน่นอน 

• โหลดรถต่ำกว่า 40 ซ.ม. หรือสูงเกิน 175 ซ.ม. เมื่อวัดจากกึ่งกลางกน้ารถไปถึงพื้นถนน
• แต่งท่อจนเสียงดังเกิน 100 เดซิเบล
• เปลี่ยนสีไฟให้ต่างจากกฎหมาย เช่นไฟเบรคไม่เป็นสีแดง ไฟเลี้ยวไม่เป็นสีเหลือง ไฟท้ายไม่เป็นสีขาว (อันตรายมาก อย่าหาทำ)
• ดัดแปลงแผ่นป้ายทะเบียน หรือมีสิ่งปิดบังป้ายจนมองไม่ชัด
• เปลี่ยนสีรถบางส่วนหรือทั้งคัน โดยไม่แจ้งกรมขนส่งทางบก

ต้อง แจ้งให้บริษัทประกันรับทราบ

ไม่ว่าเราจะแต่งรถก่อนหรือหลังทำประกัน เมื่อแต่งรถแล้ว มีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเข้าไปที่รถแล้ว ยังไงก็ต้องแจ้งไปที่บริษัทประกันนะครับ เพื่อที่บริษัทประกันจะได้ทำการประเมินเบี้ยประกันใหม่ครับ แต่ถ้าหากไม่แจ้ง ประกันก็ยังคุ้มครองอยู่นะครับ แต่จะมีวงเงินจำกัดเพียง 20,000 เท่านั้น และจะจ่ายราคาของอุปกรณ์พื้นฐาน ไม่ใช่ราคาของแต่งนะครับ 

เช่น นายแฟรงค์ไปแต่งล้อแม็กมา ราคารวม 20,000 บาท แต่ราคาแม็กเดิมที่ติดมากับรถราคา 10,000 บาท เมื่อเคลม บริษัทประกันจะจ่ายให้ 10,000 บาท ตามราคาแม็กเดิมเท่านั้นนะ 

อ่านเพิ่มเติม : ประกันรถแต่งและอุปกรณ์แต่งรถ

ต้อง จ่ายเบี้ยเพิ่ม หากอยากได้ความคุ้มครองเพิ่ม

ข้อนี้ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วครับ เมื่อเราแจ้งที่บริษัทประกันเรียบร้อยแล้ว บริษัทประกันจะทำการประเมินวงเงินคุ้มครองที่ครอบคลุมของแต่งของเราเพิ่มเข้ามา และคำนวนเป็นราคาเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่ม โดยขั้นตอนมีดังนี้

• นำใบเสร็จอุปกรณ์แต่งรถส่งให้บริษัทประกันรถยนต์ เพื่อทำการประเมินราคา
• ประกันจะทำการคิดเบี้ยประกันเพิ่มเติม
• เราชำระค่าเบี้ยประกันที่เพิ่มเข้ามา
• บริษัทประกันจะออกกรมธรรม์เพิ่มเติมหรือสลักหลังกรมธรรม์ ในส่วนที่คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งรถที่เพิ่มขึ้นมา

โดยข้อดีของการแจ้งบริษัทประกันเพื่อจ่ายเบี้ยเพิ่มนี้ คือเมื่อเกิดเหตุที่ต้องเคลมขึ้นมาจริงๆ วงเงินที่ประกันคุ้มครองจะมากกว่า 20,000 บาท และจะคุ้มครองตามราคาของแต่ง ไม่ใช่อุปกรณ์พื้นฐานครับ

ต้อง ซื้อประกันชั้น 1,2/2+,3+ เท่านั้น

นั้นก็เพราะ ประกันชั้น 1,2/2+,3+ นั้น มีความคุ้มครอง ซ่อมรถเรา ด้วยครับ โดยประกันชั้น 1 จะดีตรงที่ไม่ว่าเราจะขับรถชนรถคันอื่น ชนต้นไม้ หรือโดนชนแล้วหนี ประกันก็จะคุ้มครองค่าซ่อมรถเรา ส่วน 2/2+,3+  จะคุ้มครองเฉพาะกรณีที่ระบุคู่กรณีได้เท่านั้น แต่ประกันรถยนต์ชั้น 3 จะไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถเรานะ ดูดีๆ ว่าแล้วก็ไปเช็กเบี้ยประกันเลย!